มีเหตุเพลิงไหม้ สาธารณภัย โทร สายด่วน.199 ดับเพลิงและกู้ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
จับงู-โทร199
จับงู-โทร199

จับงู-โทร199


จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้ชุมชนมีการขยายตัวสู่ชานเมือง ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งที่อาศัยของงู งูจึงไม่มีที่อยู่ ทำให้เกิดปัญหางูเข้าบ้านเรือน แต่มันมีวิธีอะไรที่จะป้องกันและแก้ไขอย่างไร
ธรรมชาติของงู

งู (Snake) เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ไม่มีขา ไม่มีเปลือกตา มีเกล็ดปกคลุมผิวหนังทั่ว ทั้งลำตัว ลักษณะลำตัวยาวซึ่ง โดยขนาดของความยาวนั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของงูปราดเปรียวและว่องไวในการเคลื่อนที่ มีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้สำหรับรับความ รู้สึกทางกลิ่น จัดอยู่ในชั้นReptilia, ตระกูล Squamata, ตระกูลย่อย Serpentes โดยทั่วไปแล้วงูจะกลัวและไม่กัดนอกเสียจาก ถูกรบกวนหรือบุกรุก จะเลื้อยหลบหนีเมื่อมีสิ่งใดเข้ามาใกล้บริเวณที่อยู่ ออกล่าเหยื่อเมื่อรู้สึกหิว โดยกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหารหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบ้านมีตั้งหลายหลัง แต่ทำไมเจ้างูต้องเข้ามาอยู่ในบ้านเราด้วยหรือจะเป็นคราวเคราะห์จริงๆ ซึ่งอันที่จริง

สาเหตุที่งูเข้าบ้าน

1.บ้าน หรือสถานที่นั้นเป็นแหล่ง “อาหาร” ที่อุดมสมบูรณ์ เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำสระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงนกเลี้ยงไก่ไว้ ฯลฯยิ่งบ้านที่ขาดการจัดให้เป็นระบียบ บ้านที่จัดพื้นที่ สวนแต่ปล่อยให้รก ทั้งนี้เพราะงูทุกชนิดเป็นสัตว์นักล่า กินเหยื่อเป็นสัตว์ด้วยกัน

2.ลักษณะบ้านเป็นที่ “ปลอดภัย” สำหรับงู ไม่มีศัตรูก่อความรำคาญ หรือทำร้ายจนถึงชีวิต เช่น ไม่มีหมาคอยไล่เห่าไม่มีห่านไล่งับหรือไม่มีสัตว์คู่อริเช่น พังพอน หรือเมื่อมีน้ำท่วมขังงูก็จะหนีน้ำขึ้นไปอาศัยบนที่สูง

3.บ้านมี “ที่อยู่” เหมาะสม เพียงพอ ได้แก่ มีที่หลบซ่อนตัว หลับนอน หลบภัย วางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน บ้านที่มีฝ้าเพดาน ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงู นับแต่อุณหภูมิอบอุ่นจากดินหรือแสงแดด พื้นผิวที่ไม่ระคายเคือง ไม่มีกลิ่นและเสียงรบกวน (ซึ่งมากับความสั่นสะเทือน) ฯลฯ

วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน

การป้องกันงูเข้าบ้านนั้นสามารถป้องกันได้โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้านโดย

1.อย่า ให้บ้านเราเป็นแหล่งรวมอาหารของงู เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด เป็นระบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง

2.ทิ้งขยะให้เป็นที่และมิดชิดเพื่อไม่ให้หนูกิน เมื่อประชากรหนูลดลง งูก็จะลดลงตามไปด้วย

3.ท่านใดที่ชอบเลี้ยงสัตว์ก็ควรเลี้ยงสัตว์ที่เป็นศัตรูกับงูเพื่อไว้ไล่งู เช่น เลี้ยงหมา แมว ห่าน เป็นต้น ฯลฯ

4.ลดแหล่งที่อยู่ จัดสภาพแวดล้อมให้ยากและไม่เหมาะสมแก่งูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ หรือทำรังวางไข่ อย่าทิ้งพื้นที่ให้รกซึ่งจะเป็นแหล่งให้งูสามารถหลบซ่อนได้เช่น การอุดรู ใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำ หรือทุกเส้นทางที่จะเข้าไปในตัวบ้าน (โดยเฉพาะโพรงใต้บ้าน) กลบหลุมหรือโพรงที่มีตามสนามหรือขอบรั้ว กำแพง ตัดกิ่งไม้ที่พาดหรือใกล้ชายคาตัวบ้านหรือรั้ว กำแพง ฯลฯ

 

ข้อปฎิบัติเมื่องูเข้าบ้าน

1.สังเกตุและแยกแยะประเภทของงูก่อนเลยครับว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่มี โดยสังเกตุง่ายๆ ที่หัวหากลักษณะเป็นสามเหลี่ยมนั้นคืองูมีพิษ แต่หาก มีลักษณะมนกลมงูไม่มีพิษซึ่งบ้านเรามีอยู่ชัดๆ เจอบ่อยๆ 2 พวกคือ งูเหลือม งูหลาม กับงูเห่า ซึ่งแยกค่อนข้างชัด โดยที่งูเหลือมงูหลามเป็นงูไม่มีพิษแต่มีอันตรายโดยการรัดเหยื่อ ส่วนงูเห่ามีแม่เบี้ยแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำร้ายโดยการกัดและปล่อยพิษ ฉะนั้นการหลบหลีก หรือจับก็จะแตกต่างกันและต้องได้รับการฝึกฝนเป็นการเฉพาะ

2.ไม่ควรใช้วิธีไล่งูเพราะถึงคุณจะไล่ได้ในวันนี้วันอื่นๆมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม งูจะพุ่งฉกหรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหวฉะนั้นหากเผชิญกับงูให้อยู่นิ่งๆแล้วเคลื่อนไหว หรือถอยฉากหนีอย่างช้าๆ โดยจับตาดูการเคลื่อนไหวของงูไว้เพื่อหลบหลีกและควรอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

3.เฝ้าสังเกตุว่างูยังอยู่ที่เดิมหรือมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด เพื่อกันการหลบหนี

4.กันสมาชิกในบ้านให้อยู่ห่างมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาเอาไว้ให้ห่างเพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ และอาจจะเป็นการไล่งู ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง

5.เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เพราะมนุษย์นั้นไม่ใช่เหยื่อโดยธรรมชาติของงู หากเราไม่ทำร้ายงูก่อน งูก็จะหลีกเลี่ยงไม่ทำร้ายมนุษย์เช่นกัน

6.โทรแจ้งขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 199 

อ้างอิง:https://th.wikipedia.org/